การเลือกซื้อชุดเครื่องนอนโรงแรมที่ดีนั้น นอกจากเรื่องของลวดลายที่สวยงามของชุดเครื่องนอนแล้ว เราควรคำนึงถึงวัตถุดิบในการผลิตด้วย ซึ่งวัตถุดิบสำหรับชุดเครื่องนอนโรงแรมที่ขอแนะนำก็คงจะหนีไม่พ้นเครื่องนอนที่ผลิตจากฝ้าย 100% (Cotton) ซึ่งมีคุณสมบัติในเรื่องการระบายอากาศได้ดีที่สุด มีความยืดหยุ่นและให้สัมผัสนุ่มสบาย แต่ก็จะมีราคาที่สูงกว่าวัตถุดิบอื่นๆ อย่างเส้นใยผสม (TC CVC) และเส้นใยสังเคราะห์ (Polyester) ที่มีคุณสมบัติการใช้งานที่ด้อยกว่าตามลำดับ
ควรรู้ก่อนเลือกซื้อชุดเครื่องนอนโรงแรม
ขนาดของที่นอน เป็นสิ่งแรกที่เราต้องรู้ก่อนที่จะเลือกซื้อเครื่องนอนโรงแรม ซึ่งขนาดที่นอนมาตรฐานก็จะมีที่ขนาด 3.5 ฟุต (Single Size) ขนาด 5 ฟุต (Queen Size) และขนาด 6 ฟุต (King Size) กับความสูงที่นอน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ 8-10 นิ้ว ส่วนที่นอนใครที่มีขนาดต่างไปจากขนาดมาตรฐานก็ควรวัดขนาดที่นอนทั้งด้านกว้าง ยาว และสูงด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา
– Fitted Sheet หมายถึง ผ้าปูที่นอนที่มียางยืดรัดขอบที่นอน ซึ่งข้อดีคือ ใช้งานง่าย ราคาถูกกว่าเพราะไม่ต้องเผื่อผ้าเยอะ แต่ข้อเสียคือ การพับเก็บหรือรีดค่อนข้างยากกว่า
– Flat Sheet หมายถึง ผ้าปูแบบไม่มียางรัดขอบ ส่วนใหญ่จะตัดไว้ตามขนาดที่นอนมาตรฐาน มีราคาสูงกว่า พับเก็บง่าย รีดง่าย แต่การปูผ้าก็จะยากกว่าและควรระวังเรื่องความสูงที่นอน ถ้าที่นอนสูง 10 นิ้วหรือมากกว่า มักจะพบปัญหาขอบผ้าที่เหลือไม่เพียงพอจะสอดใต้ที่นอน จึงควรวัดขนาดให้ดี
ประเภทผ้าที่นิยมนำมาผลิตชุดเครื่องนอนโรงแรมกับคุณสมบัติที่ควรรู้ ผ้าฝ้าย (Cotton) ผ้าที่ทอจากเส้นใยฝ้ายสังเกตได้ว่า ฝ้ายพันธุ์ดีจะให้เส้นใยที่ยาว มีเนื้อเรียบ เมื่อนำมาทอเป็นผืนผ้าก็จะได้ผ้าฝ้ายที่มีผิวเรียบเนียนเต็มผืน คุณสมบัติที่เด่นชัดของผ้าฝ้าย คือ การระบายอากาศที่ดีดูดความชื้นได้ดี แห้งไว ไม่อับชื้น เรามาทำความรู้จัก “ผ้าฝ้าย” ที่นำมาผลิตเครื่องนอนกัน
100% Cotton Satin
มีส่วนผสมของผ้าฝ้าย (Cotton 100%) แต่เพิ่มรูปแบบการทอสลับริ้วซาติน (หนา 1 นิ้ว) สลับกันไปตลอดผืน ซึ่งจะช่วยเพิ่มสัมผัสที่นุ่มสบายยิ่งขึ้น ให้ความมันเงาสวยงามและลื่นมือ แต่ยับง่ายเหมือนคอตต้อน รวมถึงราคาก็สูงกว่า นิยมใช้กับโรงแรมและรีสอร์ตหรู
100% Cotton
มีส่วนผสมของผ้าฝ้าย (Cotton 100%) มีความนุ่มมากยิ่งซักยิ่งนุ่ม คงทนมาก ระบายอากาศดี ยับง่ายแต่จะมีหลายเกรด ถ้าเป็นเกรดต่ำ เวลาใช้งานไปสักพักหรือซักบ่อย ความเรียบเนียนจะน้อยลงและขึ้นเม็ดขุยบนเนื้อผ้า มีราคาสูง นิยมใช้ทั้งที่พักอาศัย โรงแรม และรีสอร์ตหรู
CVC
มีส่วนผสมของเส้นใยฝ้าย (Cotton) และเส้นใยสังเคราะห์ (Polyester) ในอัตราส่วนของใยฝ้ายที่มากกว่า ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ผลิตจะเลือกมาใช้งานกับเครื่องนอน อาทิ คอตต้อน 60% + พอลิเอสเตอร์ 40% คอตต้อน 80% + พอลิเอสเตอร์ 20% เป็นต้น ดังนั้นคุณสมบัติเรื่องของความนุ่มนวลก็จะลดลงตามลำดับเนื้อผ้ามีความแข็งมากขึ้นไม่ยับง่าย รีดได้ง่ายขึ้น และราคาก็ถือว่าไม่สูง
TC
มีส่วนผสมของเส้นใยฝ้าย (Cotton) และเส้นใยสังเคราะห์ (Polyester) ในอัตราส่วนของเส้นใยสังเคราะห์ที่มีมากกว่าหรือเท่าๆ กัน ซึ่งความนุ่มนวลของผ้าประเภทนี้จะน้อย ไม่ยับง่าย ระบายอากาศได้ไม่ดีนัก มีราคาที่ถูกที่สุด ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับเกรดและส่วนผสม
ไส้ผ้านวมใยสังเคราะห์กับไส้ผ้านวมขนเป็ดต่างกันอย่างไร ไส้ผ้านวมใยสังเคราะห์ เป็นไส้ผ้านวมที่ได้รับความนิยมโดยทั่วไป บุด้วยใยสังเคราะห์ชนิดนุ่มลื่นพิเศษ ระบายอากาศได้ดี น้ำหนักเบาและนุ่มสบาย ดูแลรักษาง่าย หรือใครที่เป็นภูมิแพ้ก็ควรซักด้วยน้ำอุ่นอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าไรฝุ่นต่างๆ
ไส้ผ้านวมขนเป็ด นิยมใช้กับโรงแรมหรือรีสอร์ตที่พักระดับชั้นนำ เนื่องจากมีความนุ่มสบายเป็นพิเศษและให้ความอบอุ่นได้มากกว่า รวมถึงมีน้ำหนักที่มากกว่าด้วย โดยไส้ผ้านวมถูกบรรจุด้วยขนเป็ดและก้านจนเป็ด ในสัดส่วนต่างๆ ตามความต้องการ ยิ่งสัดส่วนของขนเป็ดมีมากเท่าใด ผ้านวมก็จะยิ่งมีความนุ่มมากขึ้นเท่านั้น และไส้ผ้านวมชนิดนี้ต้องดูแลรักษาด้วยการซักแห้งเท่านั้น